banner

รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ให้การต้อนรับเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย

เมื่อวันที่ 19 พ.ย. 64 นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน พร้อมด้วยผู้บริหารของกระทรวงพลังงาน ได้ให้การต้อนรับ นายหาน จื้อเฉียง เอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย เพื่อเข้าเยี่ยมคารวะในโอกาสเข้ารับตำแหน่งใหม่และหารือเกี่ยวกับความร่วมมือด้านพลังงานระหว่างทั้งสองประเทศ

ในโอกาสนี้ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานได้กล่าวแสดงความยินดีกับการเข้ามารับตำแหน่งใหม่ของเอกอัครราชทูตจีน และการครบรอบ 72 ปีการสถาปนาสาธารณรัฐประชาชนจีน เมื่อวันที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา รวมถึงการครบรอบ 100 ปี การก่อตั้งพรรคคอมมิวนิสต์จีน และขอบคุณประเทศจีนที่ส่งมอบวัคซีนและเวชภัณฑ์ป้องกันและรักษาโรคระบาด Covid-19 ซึ่งเป็นส่วนสำคัญอย่างยิ่งที่จะช่วยสนับสนุนให้ประเทศไทยสามารถต่อสู้กับโรคระบาดในครั้งนี้ได้เป็นอย่างดี โดยเอกอัครราชทูตจีนได้แสดงความขอบคุณและยินดีกับความร่วมมืออย่างใกล้ชิดระหว่างสองประเทศที่มีร่วมกันมาอย่างยาวนาน

ในประเด็นความร่วมมือด้านพลังงานทวิภาคี ทั้งสองประเทศมีทิศทางและนโยบายด้านพลังงานที่สอดคล้องกัน ที่จะมุ่งเน้นการใช้พลังงานสะอาด การใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ ส่งเสริมการพัฒนาเทคโนโลยีพลังงาน การบริหารจัดการพลังงาน รวมถึง ความร่วมมือและความเชื่อมโยงทั้งในระดับทวิภาคี และพหุภาคี เพื่อให้สามารถบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สุทธิเป็นศูนย์ (Carbon Neutrality) ของทั้งสองประเทศร่วมกัน

ในการนี้ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานได้เชิญชวนให้นักลงทุนชาวจีนเข้ามามีส่วนร่วมในธุรกิจ/อุตสาหกรรมพลังงานในประเทศไทยในหลากหลายรูปแบบ อาทิ การพัฒนาเทคโนโลยี   ยานยนต์ไฟฟ้า การสำรวจและผลิตปิโตรเลียม เทคโนโลยีดิจิทัล รวมถึงการส่งเสริมความร่วมมือในด้านการเชื่อมโยงโครงสร้างพื้นฐานทางพลังงานและการขนส่งเพื่อรองรับการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจในภูมิภาค ที่นอกจากจะเป็นการส่งเสริมการพัฒนาด้านพลังงานระหว่างไทยและจีนแล้ว ยังเป็นการส่งเสริมความเชื่อมโยงด้านการค้า การท่องเที่ยว และการลงทุนร่วมกันในภูมิภาค ซึ่งมีความสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของข้อริเริ่มสายแถบและเส้นทางของสาธารณรัฐประชาชนจีน (Belt and Road Initiative: BRI) ที่มุ่งเน้นการส่งเสริมความเชื่อมโยงโครงสร้างพื้นฐานและการเติบโตทางเศรษฐกิจร่วมกันอีกด้วย