วันนี้ (17 มิถุนายน 2565) นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ได้ประชุมหารือทวิภาคีกับ Dr. Fatih Birol ผู้อำนวยการทบวงการพลังงานระหว่างประเทศ (Internaitonal Energy Agency: IEA) ผ่านระบบการประชุมทางไกล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานได้หยิบยกประเด็นหารือเกี่ยวกับสถานการณ์วิกฤติด้านพลังงานที่ทั่วโลกกำลังเผชิญอยู่ในปัจจุบัน รวมถึงปัญหาราคาพลังงานที่พุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องและตลาดพลังงานที่มีความผันผวนเป็นอย่างมาก โดยรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานได้ร่วมหารือถึงบทบาทของ IEA ซึ่งเป็นองค์กรระหว่างประเทศด้านพลังงานชั้นนำของโลกที่จะสามารถช่วยผลักดันการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นกับประเทศผู้นำเข้าน้ำมันและก๊าซธรรมชาติที่ต้องเผชิญกับปัญหาความมั่นคงด้านพลังงานและการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ
     ทั้งนี้ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานยังได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานไปสู่พลังงานสะอาด การอนุรักษ์พลังงาน การพัฒนาเทคโนโลยีการดักจับ กักเก็บและการใช้ประโยชน์คาร์บอน และการพัฒนายานยนต์ไฟฟ้า เพื่อผลักดันให้เกิดการใช้พลังงานอย่างยั่งยืนและยกระดับความมั่นคงทางพลังงาน รวมถึงการมุ่งไปสู่เป้าหมายการปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ของประเทศภายในปี ค.ศ. 2050 โดย Dr. Fatih Birol กล่าวว่า IEA ยินดีที่จะช่วยเหลือโดยจะจัดเวทีหารือกับผู้นำประเทศต่าง ๆ เพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหาวิกฤติทางพลังงานให้ทุกประเทศสามารถก้าวผ่านสถานการณ์ที่ยากลำบากเช่นนี้ต่อไป โดยในการประชุม G7 ครั้งต่อไปในช่วงเดือนมิถุนายนที่จะถึงนี้ จะมีการหยิบยกประเด็นปัญหาวิกฤติด้านพลังงานและผลกระทบที่เกิดกับประเทศผู้นำเข้าน้ำมันและก๊าซธรรมชาติขึ้นมาหารือเพื่อแสวงหาแนวทางแก้ไขปัญหาดังกล่าวต่อไป
     นอกจากนี้ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานและผู้อำนวยการทบวงการพลังงานระหว่างประเทศได้ร่วมลงนามใน IEA-Thailand Joint Work Programme ประจำปี ค.ศ. 2022 – 2023 โดยมีความร่วมมือในประเด็นสำคัญ 7 ด้าน ได้แก่ ข้อมูลและสถิติพลังงาน, ความมั่นคงทางพลังงานและการรองรับสภาวะฉุกเฉินทางพลังงาน, การใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ, นโยบายและแผนงานระดับชาติ, ไฟฟ้าและพลังงานหมุนเวียน, เทคโนโลยีพลังงานสะอาดและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และการทบทวนนโยบายพลังงานและการเสริมสร้างศักยภาพบุคลากร เพื่อเป็นกรอบความร่วมมือด้านพลังงานระหว่างไทยและ IEA ให้มีความใกล้ชิดและเกิดผลเป็นรูปธรรมต่อไป