เมื่อวันที่ 8 เมษายน 2568 พันเอก เฟื่องวิชชุ์ อนิรุทธเทวา ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ได้รับมอบหมายจากรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เป็นประธานเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการภายใต้กรอบความร่วมมืออาเซียน - สหภาพยุโรป ครั้งที่ 1 (The 1st Technical Workshop under the EU-ASEAN Energy Dialogue) ซึ่งกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 8-9 เมษายน 2568 ณ กรุงเทพฯ โดยมี ฯพณฯ นายเดวิด เดลี เอกอัครราชทูตสหภาพยุโรปประจำประเทศไทย และ ดร.กาญจนา วานิชกร ผู้แทนสำนักเลขาธิการอาเซียนให้เกียรติร่วมกล่าวเปิดการประชุม ในโอกาสนี้ ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ ปลัดกระทรวงพลังงาน พร้อมด้วย ดร.สมภพ พัฒนอริยางกูล รองปลัดกระทรวงพลังงาน และผู้บริหารระดับสูงจากกระทรวงพลังงาน ได้ให้เกียรติเข้าร่วมในการประชุมเชิงปฏิบัติการฯ ดังกล่าวด้วย โดยมีผู้เข้าร่วมการประชุมจากหน่วยงานที่เกี่ยวของในภาคพลังงานทั้งภาครัฐและเอกชน จากประเทศสมาชิกอาเซียนและสหภาพยุโรป จำนวนกว่า 80 คน

..
การประชุมเชิงปฏิบัติการภายใต้กรอบความร่วมมืออาเซียน – สหภาพยุโรป เป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินกิจกรรมตามแผนการดำเนินงานปี 2567 - 2568 (Work Programme 2024 - 2025) จัดขึ้นภายใต้หัวข้อ “EU-ASEAN Experience in Building a Regionally Integrated Electricity System and Market” มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมความร่วมมือระหว่างสหภาพยุโรปและอาเซียนในการพัฒนาโครงการการเชื่อมโยงโครงข่ายสายส่งไฟฟ้าอาเซียน (ASEAN Power Grid Advancement Programme: APG-AP) โดยเป็นเวทีที่เปิดโอกาสให้หน่วยงานภาครัฐในฐานะผู้กำหนดนโยบาย หน่วยงานกำกับดูแล ผู้เชี่ยวชาญและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในภาคพลังงาน ได้หารือแลกเปลี่ยนความรู้เกี่ยวกับความท้าทายและโอกาสในการสร้างความร่วมมือระหว่างสหภาพยุโรปและอาเซียน เพื่อแสวงหาแนวทางที่เหมาะสมในการพัฒนาระบบและตลาดไฟฟ้าแบบบูรณาการระดับภูมิภาค ซึ่งรวมถึงการพัฒนาโครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะในภูมิภาคอาเซียน

..
โดยในโอกาสนี้ พันเอก เฟื่องวิชชุ์ อนิรุทธเทวา ได้กล่าวถึงนโยบายระดับประเทศของไทย ที่ให้ความสำคัญกับการขยายการเชื่อมโยงโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานในภูมิภาค การบูรณาการแหล่งพลังงานหมุนเวียนและการปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้พลังงานในทุกภาคส่วน โดยกรอบความร่วมมือด้านพลังงานอาเซียน - สหภาพยุโรปนี้ ถือเป็นโอกาสสำคัญในการกระชับความร่วมมือ แบ่งปันประสบการณ์ และเรียนรู้จากแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดจากสหภาพยุโรป ซึ่งมีตลาดการซื้อขายไฟฟ้าแบบเสรีและเชื่อมโยงกันในระดับภูมิภาค เพื่อใช้เป็นแนวทางสำหรับการพัฒนาระบบพลังงานของไทยและการเชื่อมโยงโครงข่ายสายส่งไฟฟ้าในระดับภูมิภาค ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในการเสริมสร้างความมั่นคงด้านพลังงานของภูมิภาคอาเซียนต่อไปในอนาคต